วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563

รู้จักชนิดวิตามินซีและการทานที่ถูกต้อง


รู้จักชนิดวิตามินซีและการทานที่ถูกต้อง





photo

เมื่อเอ่ยถึงวิตามินซี เชื่อแน่ว่าทุกคนรู้จักและทราบถึงประโยชน์มากมายของมัน โดยเฉพาะการเพิ่มภูมิต้านทานและป้องกันโรคหวัด และที่สำคัญคือสรรพคุณเพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้าและผิวพรรณ แต่ใช่ว่าทุกปัญหาสุขภาพจะทานวิตามินซีในปริมาณเดียวกันหรือรูปแบบเดียวกันหมด การทานวิตามินซีก็มีวิธีการทานที่ถูกต้องและตามความเหมาะสมของร่างกายแต่ละคนด้วย

photo

 

เราควรได้รับปริมาณวิตามินซีเท่าไหร่

ในทางศาสตร์ชะลอวัยคนเราควรทานวิตามินซีวันละ 1000 มิลลิกรัมต่อวัน ที่จะช่วยในเรื่องภูมิต้านทานร่างกายและการบำรุงผิวพรรณ แต่สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหวัดหรือภูมิแพ้บ่อย ควรทานวิตามินซี 2000 มิลลิกรัมหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งหากอยากรู้แน่ชัดว่าร่างกายเราต้องการวิตามินเท่าไหร่ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

รู้จักชนิดของวิตามินซีรูปแบบต่าง


1) แบบอัดเม็ด
วิตามินซีประเภทนี้โดยทั่วมีขนาดตั้งแต่ 25-1,000 มก. แต่ขนาดยอดนิยมทั่วไปคือ 500 และ 1,000 มก. ซึ่งหากเป็นไปได้ควรเลือกทานที่ระบุว่าเป็นแบบ Buffered, Sustained release หรือ Slow release เพราะตัววิตามินซีจะค่อยๆ ปล่อยจากเม็ดยาช้าๆ ทำให้วิตามินซีออกฤทธิ์ได้นานขึ้น อีกทั้งช่วยให้ไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร แต่ระดับวิตามินซีในกระแสเลือดที่ได้รับนั้นไม่แตกต่างจากรูปแบบเม็ดทั่วไปที่ปล่อยวิตามินซีแบบทันที
2) แบบเม็ดอม
มีตั้งแต่ 25-500 มก. เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบกลืนเป็นเม็ด แต่พึงระลึกไว้เสมอว่า การอมวิตามินซีแบบเม็ดบ่อยๆ กรดที่ออกมาจะทำให้เคลือบฟันบางจนฟันกร่อนได้
3) แบบเม็ดเคี้ยว
โดยปกติมีขนาด 30 มก. เหมาะกับเด็ก เพราะมีรสหวานชวนทาน แต่ต้องระวังไว้ว่า ด้วยน้ำตาลที่มีปริมาณสูงอาจส่งผลให้เกิดฟันผุได้เมื่อรับประทานเป็นประจำ
4) แบบเม็ดฟู่
มักมาในขนาด 500 และ 1,000 มก. วิธีการทานที่ถูกต้องควรนำไปละลายในน้ำจนฟองหมด เพราะฟองแก๊สที่เกิดขึ้นเมื่อรับประทานเข้าไปอาจเกิดการแน่นท้องในภายหลังได้ วิตามินซีชนิดนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาเม็ดขนาดใหญ่ได้ ข้อดีคือเหมาะกับผู้สูงอายุที่มรปัญาเรื่องดูดซึม

5) แบบแคปซูล
มีทั้งแบบแคปซูลแข็งและแคปซูลนิ่ม แต่ละแคปซูลมีขนาด 500 มก. ข้อดีคือกลืนง่ายสบายคอกว่าวิตามินซีรูปแบบอัดเม็ด

6) แบบสารละลายเพื่อฉีด
ขนาดจะอยู่ที่ 500 มก. เป็นวิตามินซีแบบที่เหมาะกับการป้องกันหวัดที่ดีที่สุด แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการฉีด ข้อดีก็คือ ออกฤทธิ์เร็ว และร่างกายสามารถเอาวิตามิซีไปบำรุงซ่อมแซมได้ทันที เพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร


รู้แบบนี้แล้วก็ลองเลือกชนิดของวิตามินซีที่เหมาะกับคุณดู นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการทานวิตามินซีอีกดังนี้
วิตามินซีมีจุดอิ่มตัวในการดูดซึม
การดูดซึมของวิตามินซีมีจุดอิ่มตัวและขึ้นอยู่กับปริมาณในการรับประทานเข้าไป หากทานเกินจุดอิ่มตัวของการดูดซึม ร่างกายก็ไม่สามารถดูดซึมไปใช้เพิ่มได้ จึงควรทานวิตามินซีในปริมาณที่ต่ำกว่า 1 กรัม แต่ทานหลายครั้งจะดูดซึมได้ดีกว่าทานปริมาณมากในครั้งเดียว
ยกตัวอย่างเช่น
การรับประทานวิตามินซีครั้งละ 1,000-1,500 มก. มีข้อมูลระบุว่า ร่างกายดูดซึมวิตามินซีได้เพียง 50% เป็นต้น


ทานวิตามินซีให้ได้คุณค่าสูงสุด


ทานพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น เพราะวิตามินซีจะถูกขับออกภายใน 2-3 ชั่วโมง ดังนั้นการรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ
บรรเทาหวัดทานวิตามินซี 1,000 มก. วันละ 2 เวลา ช่วยให้ระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40
ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานวิตามินซีวันละ 1000 มก. เพราะวิตามินซีจะเข้าไปช่วยลดสารต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือด อีกทั้งช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
เพิ่มประสิทธิภาพวิตามินซี ด้วยการทานร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์
สัญญาวิตามินซีเกิน เช่น อาการท้องเสีย เป็นต้น ซึ่งอาจเกิดได้กับคนที่ทานวิตามินซีได้ปริมาณที่สูงมากๆ เช่น 8000 มิลลิกรัม ขึ้นไป ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะเป็น เพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนก็สามารถย่อยวิตามินซีได้วันละหลายกรัมเลยทีเดียว


ทานวิตามินซีเพื่อผิวสวย VS ทานวิตามินซีเพิ่มภูมิต้านทาน

สำหรับการทานวิตามินซีให้ผิวสวย เสริมสร้างคอลลาเจนให้แข็งแรง ผิวขาวใสเปล่งปลั่ง โดยทั่วไปต้องทานวิตามินซีในปริมาณ 1,000 มก. ต่อวันขึ้นไป ซึ่งเป็นปริมาณที่มากกว่าการป้องกันโรคหวัด และควรต้องเป็นวิตามินซีที่สกัดจากธรรมชาติ ซึ่งหากเป็นการรับวิตามินซีปริมาณสูง จะให้ดีควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณหรือชะลอวัยเพื่อรับคำแนะนำในการรับปริมาณวิตามินซีที่เหมาะกับร่างกายก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าและปลอดภัยกว่า

line://app/1572442362-jGxDDGRp?page=@beautydiva

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น